ไม่อยากให้หน้าจอแตกง่าย ๆ มาดูวิธีป้องกันที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานมือถือคุณกัน
ปัญหาหน้าจอมือถือแตก มักเกิดจากการทำหล่นหรือแรงกดทับโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็สร้างความเสียหายได้มาก การติดฟิล์มกระจกนิรภัย ใช้เคสกันกระแทกและเสริมด้วยอุปกรณ์อย่าง Griptok หรือสายคล้องมือถือ จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานมือถือไปได้อีกนาน

อุบัติเหตุเป็นเรื่องไม่คาดฝัน โดยเฉพาะกับมือถือคู่ใจที่เผลอแป๊บเดียวก็อาจจะร่วงหล่นจนหน้าจอแตก ให้ใจหายแว็บ! เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอประสบการณ์นี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ทั้งแบบเฉียดฉิวแค่ฟิล์มร้าว ไปจนถึงขั้นต้องเปลี่ยนจอใหม่กันเลยทีเดียว วันนี้ CaseClub เลยจะมาแชร์วิธีป้องกันง่าย ๆ ที่จะช่วยเซฟมือถือของคุณจากปัญหาหน้าจอมือถือแตก และยืดอายุการใช้งานไปได้อีกนาน
มือถือหล่น หน้าจอแตกง่ายจริงไหม?
แม้ว่าเทคโนโลยีหน้าจอมือถือในปัจจุบันจะพัฒนาไปไกล มีกระจกที่แข็งแรงทนทานขึ้น แต่การตกกระแทก โดยเฉพาะถ้าเอาส่วนมุมหรือขอบลงพื้น ก็ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หน้าจอแตกได้อยู่ดี ลองนึกภาพตามสิว่า แค่มือถือลื่นหลุดจากมือตอนกำลังจะหยิบใส่กระเป๋า หรือตอนเซลฟี่เพลิน ๆ ก็มีโอกาสทำให้เกิดรอยร้าวหรือจอแตกได้แล้ว ยิ่งถ้าตกจากที่สูงหรือกระแทกกับของแข็ง ๆ ด้วยแล้วละก็... ไม่อยากจะคิดเลยใช่ไหมหล่ะ
ปัจจัยอื่นที่ทำให้หน้าจอแตก มีอะไรอีกบ้าง
นอกจากการทำมือถือหล่นแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้หน้าจอแตก โดยที่เราไม่ทันระวังตัวด้วย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- ใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงที่รัดแน่นเกินไป โดยเฉพาะกระเป๋าหลัง เวลาเรานั่งทับลงไป อาจเกิดแรงกดทับที่หน้าจอ ทำให้จอมือถือแตกได้
- ใส่รวมกับของแข็งในกระเป๋า พวกกุญแจ เหรียญหรือของมีคมอื่น ๆ ถ้าเสียดสีหรือกระแทกกับหน้าจอบ่อย ๆ ก็เป็นสาเหตุของรอยขีดข่วนและอาจทำให้หน้าจอแตกได้ง่ายขึ้น เมื่อมีแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย
- แรงกดทับโดยไม่ตั้งใจ เช่น วางของหนักทับบนมือถือหรือเผลอเหยียบ
- การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว แม้จะเกิดได้ยาก แต่การนำมือถือจากที่ร้อนจัดไปที่เย็นจัดทันที หรือกลับกันนำมือถือจากที่เย็นจัดไปที่ร้อนจัดทันที ก็อาจทำให้วัสดุของหน้าจอเกิดการหดหรือขยายตัวจนเกิดรอยร้าวได้